ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ " Study Abroad " " เรียนต่อต่างประเทศ "

ข้อมูลไปเรียนต่อต่างประเทศ

108คำถามจากhttp://www.studyoverseas.co.th

ถาม :
ก.พ. คืออะไร
ตอบ :
ย่อมาจากคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน มีหน้าที่รับผิดชอบจัดการศึกษาของนักเรียนทุนรัฐบาลฝ่ายพลเรือนที่ส่งไปศึกษา ณ ต่างประเทศ
ถาม :
สำนักงาน ก.พ. ทำหน้าที่อย่างไร
ตอบ :
ทำหน้าที่ในการพิจารณาคุณวุฒิของผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ เพื่อบรรจุเข้ารับราชการ และเพื่อใช้เป็นแนวทางการเลือกสถานศึกษาที่ได้มาตรฐาน สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในการรับราชการ ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการรับรองคุณวุฒิจากต่างประเทศของ ก.พ.
ถาม :
IELTS ต่างจาก TOEFL อย่างไรบ้าง?
ตอบ :
- IELTS (International English Language Testing System) เป็นข้อสอบมาตรฐานด้านภาษาอังกฤษของประเทศอังกฤษและออสเตรเลีย เพื่อใช้ในการคัดเลือกนักศึกษาต่างชาติเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของสถาบันการศึกษาประเทศอังกฤษและออสเตรเลีย IELTS จะเน้นทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน
- TOEFL (Test of English as a Foreign Language) เป็นข้อสอบมาตรฐานด้านภาษาอังกฤษของสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้คัดเลือกนักศึกษาต่างชาติเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษากับสถาบันการศึกษาของประเทศอเมริกา
และแคนาดา
ถาม :
ผลสอบ TOEFL และ IELTS จะใช้ได้นานเท่าไหร่ ?
ตอบ :
2 ปี (ถ้าสอบ IELTS ไปแล้วจะต้องเว้น 3 เดือนถึงจะมีสิทธิสอบได้อีก 1 ครั้ง)
ถาม :
ถ้าไม่สอบ IELTS แต่สอบ TOFEL แทนได้ไหม ?
ตอบ :
ได้ แต่จะต้องขึ้นอยู่กับประเทศและสถาบันที่เราต้องการสมัคร เพราะบางสถาบันไม่สามารถใช้แทนกันได้
ถาม :
ถ้าไม่มีผลภาษาอังกฤษ TOFEL หรือ IELTS จะไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศก่อนได้ไหม?
ตอบ :
ได้ โดยสมัครเรียนภาษาอังกฤษก่อน อย่างน้อยที่สุดประมาณ 20 สัปดาห์ แล้วสอบภาษาอังกฤษให้ผ่านตามที่สถาบันกำหนดแล้วค่อยสมัครเรียนคอร์ดอื่นต่อไป
ถาม :
ระหว่างเรียนภาษาอังกฤษในเมืองไทยกับเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศอย่างไหนจะดีกว่ากัน?
ตอบ :
การที่ไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ นักเรียนมีโอกาสฝึกภาษาอังกฤษมากกว่าอยู่ในเมืองไทย เนื่องจากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา เช่น ดูโทรทัศน์ พูดคุยกับเพื่อนต่างชาติรวมถึงชาวออสเตรเลียด้วย แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า ถ้านักเรียนต้องการประหยัดเงิน นักเรียนอาจจะเตรียมภาษาอังกฤษจากเมืองไทยมากที่สุด พยายามสอบภาษาอังกฤษผ่านตามที่สถาบันกำหนด ก็จะได้ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษนาน
ถาม :
หลักสูตรภาษาอังกฤษแบ่งออกเป็นกี่ประเภท?
ตอบ :
*ภาษาอังกฤษทั่วไป *ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ *ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ *ภาษาอังกฤษเฉพาะสาขา เช่น Business, Tourism, TESOL *ภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบ TOEFL, IELTS, TOEIC
ถาม :
หลักสูตรภาษาอังกฤษเปิดสอนที่ไหนบ้าง?
ตอบ :
หลักสูตรภาษาอังกฤษเปิดสอนในสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น โรงเรียนสอนภาษาของเอกชน, วิทยาลัย, วิทยาลัยอาชีวศึกษา (TAFE / Polytechnic), และมหาวิทยาลัย
ถาม :
ถ้าไม่มีผลภาษาอังกฤษ TOEFL หรือ IELTS จะต้องภาษาอังกฤษระยะเวลานานเท่าไหร่?
ตอบ :
ขึ้นอยู่กับพื้นฐานภาษาอังกฤษว่าดีแค่ไหน ถ้าพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ดีเลย คงจะต้องเรียนภาษาอย่างน้อย 1 ปี ถ้าพื้นฐานดีอาจจะเรียนภาษาประมาณ 10-20 สัปดาห์ ถ้ามีผลสอบ IELTSประมาณ 4.5 หรือ TOEFL 450 ก็สามารถเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ (ENGLISH FOR ACADEMIC PURPOSE) ซึ่งอยู่ในระดับกลางจนถึงระดับสูง โดยไม่ต้องไปเริ่มที่ GENERAL ENGLISH
ถาม :
ถ้าต้องการเรียนวิชาชีพในวิทยาลัยอาชีวศึกษา แต่ไม่มีผลภาษาอังกฤษจะสมัครได้ไหม?
ตอบ :
ได้ ก็สมัครเรียนภาษาอังกฤษไปก่อนประมาณ 20-40 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ถ้าสอบผ่านภาษาอังกฤษตามที่สถาบันกำหนดก็อาจจะเข้าเรียนต่อในสถาบันนั้นเลย ไม่ต้องสอบ IELTS เนื่องจากทางสถาบันวัดผลภาษาอังกฤษจากของตนเอง
ถาม :
ถ้าต้องการเรียนต่อในระดับอนุปริญญาตรี และระดับสูงกว่าในมหาวิทยาลัย ควรจะเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษประเภทไหน
ตอบ :
หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อระดับสูง (ENGLISH FOR ACADEMIC PURPOSE) ซึ่งจะเน้นทักษะในการเรียนระดับสูงในมหาวิทยาลัย ฝึกทักษะต่างๆ เช่น การจดบรรยาย การทำรายงาน การเข้าร่วมสัมมนา การพูดหน้าชั้นเรียน
ถาม :
จบ ม. 6 จากเมืองไทย ต้องการไปเรียนระดับปริญญาตรีที่ประเทศออสเตรเลียจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง?
ตอบ :
นักศึกษาจะต้องเข้าเรียนปีพื้นฐาน FOUNDATION 1 ปีก่อน และจะต้องสอบให้ผ่านถึงจะสมัครเรียนในระดับปริญญาตรีได้ ถ้าสอบไม่ผ่านอาจจะสมัครเรียนวิทยาลัยเอกชน หรือวิทยาลัยอาชีวศึกษา เรียน 2 ปีก็ได้อนุปริญญาตรี แล้วค่อยสมัครเรียนปริญญาตรีอีกครั้ง เรียนอีก 2 ปี ก็จะได้ปริญญาตรี
ถาม :
วิทยาลัย TAFE คืออะไร?
ตอบ :
TAFE คือ วิทยาลัยเทคนิคและการศึกษาต่อเนื่องของออสเตรเลีย เป็นระบบการศึกษาของรัฐบาลทางด้านสายอาชีพและการฝึกวิชาชีพเพื่อออกไปตลาดแรงงานได้เร็วขึ้น
ถาม :
หลักสูตรที่เปิดสอนในวิทยาลัย TAFE / POLYTECHNIC มีอะไรบ้าง ?
ตอบ :
หลักสูตรเปิดสอนตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรขั้นต้น (Certificate) จะใช้เวลาเรียน 6 เดือน ถึง 1 ปีจบ จนถึงอนุปริญญาตรี (Diploma / Advanced Diploma) ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี นอกจากนี้บางสถาบันจะเปิดสอนหลักสูตรต่อเนื่องในระดับปริญญาตรีด้วย
ถาม :
ถ้าต้องการเรียนต่อในวิทยาลัย TAFE / POLYTECHNIC นักศึกษาต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษหรือเปล่า?
ตอบ :
นักศึกษาจะต้องมีผลภาษาอังกฤษ IELTS ประมาณ 5.5 หรือ TOEFL ประมาณ 530-550
ถาม :
ถ้าเรียนจบ DIPLOMA จาก วิทยาลัย TAFE สามารถเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยได้หรือเปล่า?
ตอบ :
ได้ และได้รับการยกเว้นบางวิชา หรือสามารถโอนหน่วยกิตจากวิทยาลัย TAFE ได้ ซึ่งนักศึกษาสามารถเข้าเรียนปี 2 ของระดับปริญญาตรีได้เลย ในสาขาเดียวกับสาขาที่เรียนในวิทยาลัย TAFE
ถาม :
ในการสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรี โท ต้องการอะไรบ้าง?
ตอบ :
ผลการเรียน (TRANSCRIPT) GPA ไม่ควรต่ำกว่า 2.5
ผลภาษาอังกฤษ TOEFL ประมาณ 550-580 หรือ IELTS 6-6.5
บางสาขาต้องการประสบการณ์ เช่น MBA จะต้องมีใบผ่านงาน
หรือ REFERENCE จากที่ทำงานและจากอาจารย์
หลักสูตร MBA บางสถาบันจะต้องมีผล GMAT
ถาม :
ถ้าพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ดี จะต้องเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษนานเท่าไหร่ ก่อนเข้าเรียนระดับปริญญาโท ?
ตอบ :
อาจจะต้องเรียนภาษาอังกฤษประมาณ 1 ปี และจะต้องหมั่นฝึกทักษะทั้ง 4 ทักษะให้มากที่สุด ( ฟัง พูด อ่าน เขียน )
ถาม :
ถ้ามีผลภาษาอังกฤษไม่ถึงเกณฑ์ที่สถาบันต้องการ เช่น TOEFL 540 หรือ IELTS 6 จะสมัครเรียนปริญญาโทได้หรือไม่ ?
ตอบ :
ได้ โดยให้สถาบันตอบรับแบบมีเงื่องไข คือ สถาบันรับนักศึกษาแล้ว แต่นักศึกษาจะต้อง
สอบภาษาอังกฤษให้ผ่านเกณฑ์ที่สถาบันกำหนด อาจจะให้ไปเรียนภาษาอังกฤษก่อนประมาณ 10-20 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับผลภาษาอังกฤษที่มีอยู่) ถ้าสอบผ่านก็เข้าไปเรียนได้เลย
ถาม :
หลักสูตรปริญญาโทเรียนกี่ปี และจะต้องมีประสบการณ์หรือไม่ ?
ตอบ :
โดยปกติจะเรียนประมาณ 1 - 2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ สำหรับหลักสูตรปริญญาโท 1 ปีจบจะมีที่ประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ และอเมริกา
ถาม :
ถ้าไม่มีประสบการณ์การทำงาน แต่ต้องการเรียน MBA จะเป็นไปได้หรือไม่ ?
ตอบ :
โดยส่วนใหญ่แล้ว ทางมหาวิทยาลัยต้องการประสบการณ์ทำงานอย่างต่ำ 2 ปีขึ้นไป แต่ก็มีบางมหาวิทยาลัยที่สามารถรับนักศึกษาที่ไม่มีประสบการณ์หรือมีไม่ถึง 2 ปีได้
ถาม :
หลักสูตรภาษาอังกฤษใด เหมาะสมกับนักศึกษาทึ่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย (ปริญญาตรี โท เอก)?
ตอบ :
หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ (ENGLISH FOR ACADEMIC PURPOSE)
หรือเรียกว่า "EAP" แต่นักศึกษาจะต้องมีผลภาษาอังกฤษ IELTS ประมาณ 4.5 ขึ้นไป
หรือ TOEFL ประมาณ 450 ขึ้นไป
ถาม :
ถ้าจบปริญญาตรีสาขาอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวกับด้านธุรกิจ หรือบริหาร สามารถสมัครเรียน MBAได้หรือไม่?
ตอบ :
ได้ สำหรับประเทศออสเตรเลีย และประเทศอังกฤษ ส่วนประเทศอเมริกา นักศึกษาจะต้องเรียน Prerequisites ก่อน ซึ่งจะเรียนประมาณ 6 วิชา และจะต้องได้ผลการเรียนไม่ต่ำกว่า B จึงจะสามารถพิจารณาเข้าหลักสูตรปริญญาโทได้
ถาม :
จะเรียน MBA จะต้องสอบ GMAT หรือไม่ ?
ตอบ :
บางสถาบันต้องการผล GMAT บางสถาบันไม่ต้องการ
ถาม :
การสอบ GMAT คืออะไร
ตอบ :
GMAT เป็นการวัดความสามารถทางด้านภาษาและคณิตศาสตร์ทั้งความถนัดในการเขียนเชิงวิเคราะห์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสำเร็จในการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ ดังนั้นคะแนน GMAT จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สถานศึกษาในสหรัฐอเมริกาใช้ในการรับเข้าศึกษาระดับปริญญาโททางบริหารธุรกิจ นอกจากนี้บางสถาบันในประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ นิวซีแลนด์และแคนาดา ก็กำหนด GMAT เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งในการสมัครเรียนต่อ MBA เช่นกัน
ถาม :
การสอบ GRE คืออะไร
ตอบ :
GRE เป็นแบบทดสอบมาตรฐานที่สถานศึกษาในสหรัฐอเมริกาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณารับเข้าศึกษาในสาขาวิชาต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับปริญญาโทขึ้นไป ยกเว้นสาขาบริหารธุรกิจที่ใช้ GMAT แบบทดสอบ GRE มี 2 ชนิดคือ General Test เป็นการสอบเพื่อวัดทักษะของผู้สอบในรูปคะแนนของความสามารถทางภาษาและ Subject Test เป็นการทดสอบเพื่อวัดความสามารถในสาขาที่เฉพาะเจาะจงลงไป
ถาม :
มีหลักสูตร MBA เรียนแค่ 1 ปี หรือไม่?
ตอบ :
มี ทั้งที่ประเทศออสเตรเลีย อังกฤษ และอเมริกา
ถาม :
หลักสูตร MBA แบ่งออกเป็นกี่ประเภท?
ตอบ :
1. MBA แบบทั่วไป
2. EXECUTIVE MBA จะต้องมีประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปี
3. MBA (INTERNATIONAL BUSINESS) บริหารการค้าระหว่างประเทศ
4. TECHNOLOGY MANAGEMENT หรือ ENGINEERING MANAGEMENT
ถาม :
ถ้าจบปริญญาตรีทางด้านบริหาร มีผลภาษาอังกฤษตามที่สถาบันกำหนดแต่ไม่มีประสบการณ์ จะสมัคร MBA ได้หรือไม่ ?
ตอบ :
นักศึกษาอาจจะทำงานก่อนสัก 1 ปีแล้วลองสมัครใหม่ หรือสมัครเรียน MASTER OF COMMERCE หรือ MASTER OF BUSINESS และเลือกวิชาเอกในสาขาวิชาที่เราสนใจ (เฉพาะด้าน)
ถาม :
ปกติจะมีภาคเรียนกี่เทอม เปิดรับรับนักศึกษาใหม่กี่ครั้ง ?
ตอบ :
สำหรับประเทศออสเตรเลีย ปกติจะมี 2 เทอมคือเริ่มเรียนตอนเดือน กุมภาพันธ์ และเดือนกรกฎาคม บางมหาวิทยาลัยจะเปิดตอนช่วงซัมเมอร์ คือเดือนพฤศจิกายน สำหรับประเทศอังกฤษ จะเปิด เดือนกันยายน บางมหาวิทยาลัยจะเปิด 2 รอบคือ มีเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับประเทศอเมริกา จะเปิด 3 รอบ คือ เดือนมกราคม มิถุนายน และตุลาคม
ถาม :
หลักสูตรที่จบด้วย COURSEWORK และหลักสูตรที่จบด้วย RESERCH แตกต่างกันอย่างไร ?
ตอบ :
หลักสูตรที่จบแบบ COURSEWORK เป็นหลักสูตรที่มีการบรรยายจากอาจารย์ มีคะแนนเก็บการสัมมนา ทำรายงานและการสอบ แต่หลักสูตรที่จบแบบ RESERCH จะเป็นหลักสูตร ที่ทำวิจัย ค้นคว้าอย่างเดียวไม่มีการเข้าเรียนแต่จะมีอาจารย์ที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำในการทำวิจัย หลักสูตรแบบ RESEARCH จะยากกว่า COURSEWORK ผู้เรียนจะต้องเคยทำวิจัยมาก่อน ถ้าไม่เคยทำวิจัยมาก่อนก็จะต้องลงเรียนวิชาการทำวิจัยและพื้นฐานภาษาอังกฤษควรจะดี เพราะต้องต้องเขียนรายงานการวิจัยมาก
ถาม :
ถ้ามีผลการเรียน GPA ต่ำกว่า 2.5 ซึ่งทางสถาบันกำหนด จะมีโอกาสสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาโทได้หรือไม่ ?
ตอบ :
ถ้า GPA ต่ำกว่า 2.5 นักศึกษาควรจะมีผลภาษาอังกฤษดี เช่น มีผล IELTS 6.5 TOEFL 550 ขึ้นไป หรือบางสถาบันอาจจะให้เรียนระดับอนุปริญญาโท 1 ปี (POSTGRADUATE DIPLOMA) ถ้าผ่านตามที่สถาบันต้องการถึงจะเข้าไปเรียนระดับปริญญาโท
ถาม :
ระยะเวลาของการได้วีซ่านักเรียน จะให้วีซ่านานเท่าไหร่?
ตอบ :
สำหรับประเทศออสเตรเลีย และอังกฤษ วีซ่าจะให้ตามระยะเวลาของหลักสูตรที่เรียน เช่น เรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษเป็นเวลา 1 ปี วีซ่าจะให้ประมาณ 1 ปีบวกอีก 1 เดือน ถ้าต้องการต่อวีซ่าก็สามารถต่อวีซ่าได้เลยที่ประเทศนั้น ๆ ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องมาต่อวีซ่าที่เมืองไทย นักศึกษาต่างชาติสามารถต่อวีซ่าได้ที่ IMMIGRATION OFFICE ซึ่งตั้งอยู่ตามเมืองหลวงของแต่ละรัฐ แต่ละประเทศ สำหรับประเทศอเมริกา โดยส่วนมากจะได้วีซ่า 5 ปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ I-20 ของสถาบันที่เราจะไปศึกษา ถ้าหลังจากจบจากที่หนึ่งแล้ว จะไปเรียนต่ออีกที่หนึ่ง จะต้องขอ I-20 ใหม่เพื่อแจ้งกับ Immigration แต่ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าใหม่
ถาม :
ขณะที่ศึกษาอยู่ในต่างประเทศ นักศึกษาต่างชาติสามารถทำงานได้หรือไม่?
ตอบ :
สำหรับประเทศออสเตรเลียและประเทศอังกฤษ รัฐบาลอนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติทำงาน PART-TIME ได้อย่างถูกต้องไม่ผิดกฎหมาย ไม่เกิน 20 ชม. ใน 1 สัปดาห์ และสามารถทำงาน FULL TIME ได้ในช่วงปิดเทอม สำหรับประเทศอเมริกา นักศึกษาต่างชาติจะทำงาน PART-TIME ได้ก็ต่อเมื่อเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาแล้วเท่านั้น


ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.studyoverseas.co.th